บ้านสถาพร เสริมแกร่งลุยตลาดอสังหา ภายใต้แบรนด์ใหม่สุดทันสมัย “สถาพร เอสเตท” (SATHAPORN ESTATE)
บ้านสถาพร เสริมแกร่งลุยตลาดอสังหา ภายใต้แบรนด์ใหม่สุดทันสมัย “สถาพร เอสเตท” (SATHAPORN ESTATE) พร้อมขยายไลน์รุกตลาดบ้านและคอนโด ตั้งเป้า 5 ปี โต 11,500 ล้านบาท
มุ่งมั่นมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมงานออกแบบที่ทันสมัย สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม พร้อมชูจุดแข็งการพัฒนานวัตกรรมในทุกด้านของการอยู่อาศัยร่วมกับพันธมิตรคุณภาพ รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างยั่งยืน ประเดิมโครงการแรกในแนวสูงรุกครึ่งปีหลังกับ “The SHADE (Sathon1)” บนทำเล CBD ใจกลางสาทร มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท
กรุงเทพฯ – วันนี้ (25 มิ.ย.) นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมรุกตลาดอสังหาอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ สถาพร เอสเตท (SATHAPORN ESTATE) จากเดิมที่รู้จักในชื่อเดิมคือ บ้านสถาพร รังสิต โดยบจก.เฉลิมนคร และ บ้านทรัพย์หิรัญ โดย บจก.ทรัพย์หิรัญ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั้งโครงการบ้านและทาวน์โฮม ในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ สถาพร เอสเตท (SATHAPORN ESTATE) ที่มุ่งเน้นคุณภาพและบริการ มีการออกแบบและพัฒนาโครงการที่ทันสมัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยมีกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ นั่นคือ “Revitalize” ซึ่งหมายถึงการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการรุกธุรกิจอย่างมีศักยภาพ เริ่มตั้งแต่การพัฒนา Product ภายใต้ Brand ใหม่ที่ถูกออกแบบมาในแนวคิด “For The Nature Of Life” เราจึงพัฒนาเพื่อชีวิตอยู่คู่ธรรมชาติอย่างยั่งยืน
“นอกจากนี้ ยังเสริมแกร่งด้วยการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร หรือ Strategic Alliance เพื่อรองรับการอยู่อาศัยที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของอนาคต (SMART LIFE) ที่ครอบคลุม 4 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น SMART AUTOMATION เป็นการผนึกกำลังกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง PANASONIC ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยระบบควบคุมไฟ แอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงนวัตกรรม Safety Town เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร, SMART ENERGY เป็นการผนึกกำลังกับ EA ANYWHERE ในการติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะบริษัทฯมองว่าในอนาคตพลังงานจากฟอสซิล หรือน้ำมันจะหมดไป ดังนั้นจึงมองเห็นคุณค่าของการใช้พลังงานอื่นเข้ามาทดแทน,
SMART MOBILITY เป็นการผนึกกำลังกับ BOX24 ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านล็อกเกอร์อัจฉริยะ เพื่อช่วยให้ลูกค้าหมดปัญหาการรับพัสดุ หรือ ฝากสิ่งของ ตอนที่ไม่อยู่บ้าน ด้วยล็อกเกอร์อัจฉริยะ ที่มาพร้อมกับบริการเสริม เช่น ส่งพัสดุ, ฝากสิ่งของ, ซักอบรีด, และซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ในยุคดิจิทัล และ SMART ENVIRONMENT เป็นการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ร่วมกันพัฒนาเครื่อง Recycle Vending Machine หรือเครื่องรีไซเคิลขยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุด เพื่อเป็นการช่วยลดขยะในโครงการอีกด้วย”
“ในส่วนของกลยุทธ์ในการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสถาพร เอสเตท (SATHAPORN ESTATE) จะเริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่แนวสูงมากยิ่งขึ้น โดยคิดเป็นสัดส่วนในการขยายธุรกิจในแนวสูง 50% และแนวราบ 45% และรายได้จากทรัพย์สิน หรือ Recurring Incomes 5% ซึ่งจะใช้กลยุทธ์ในการรุกตลาดที่แตกต่างกันออกไป โดยแนวราบจะเน้นปัจจัยสำคัญในเรื่องศักยภาพของทำเลในอนาคต ส่วนแนวสูงจะเน้นปัจจัยสำคัญในเรื่องของทำเล CBD ของกรุงเทพฯ
และความสะดวกสบายของการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
ในไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ มีกำหนดเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรก ในชื่อ “The SHADE (Sathon1)” (เดอะ เชดด์ สาทร 1) คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 278 ยูนิต ภายใต้แนวคิด “Shades The One You Love” ซึ่งสะท้อนให้นึกถึงบุคคลที่คุณรักพร้อมทั้งยังสะท้อนการเป็นเป็นแหล่งพักพิงที่ให้ร่มเงาแก่คนที่คุณรักไปพร้อม ๆ กัน โดยมาพร้อมกับการออกแบบอาคารให้เย็นโล่ง พร้อม Panoramic Unblock View โปร่งสบายด้วยการระบายอากาศ Air Ventilation Design, Smart Locker, Space Management, His & Her Design และ Single Corridor (บางยูนิต) และพื้นที่จอดรถกว่า 70% พร้อมเทคโนโลยี Smart Home Solutions ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมแอร์, TV และแสงสว่างผ่าน Application บนมือถือ และ Digital Door Lock พร้อมพื้นที่สีเขียวและส่วนกลางครบครัน รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท”
#Terraads นอกจากนี้ ในปี 2562 ทางบริษัทฯ เตรียมทำการเปิดตัวโครงการแนวสูงเพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่
The Shade Twig (เดอะ เชดด์ ทวิกก์) เย็นอากาศ และ The Crown (เดอะ คราวน์) พระราม 4 รวมไปถึงโครงการแนวราบอีก 1 โครงการ ได้แก่ “The Eternity (ดิ อิเธอร์นิตี้) รังสิตคลอง 5” โครงการประเภทบ้านเดี่ยว บนพื้นที่กว่า 99 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นโครงการไฮไลท์ของทางบริษัทฯ ที่ออกแบบโดยทีมงานศิลปินแห่งชาติ
จากสถาบันอาศรมศิลป์ โดยจะเน้นพื้นที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพของศูนย์กลางแห่งความเจริญย่านรังสิต ติดถนนใหญ่รังสิต-นครนายก ใกล้ทางด่วนศรีรัช – วงแหวนตะวันออก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ - รังสิต) และสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (คูคต - ลำลูกกา) อีกทั้งยังใกล้ศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่อย่างศูนย์การค้าเมกา รังสิต และอิเกีย รังสิต
“ในปี 2561 นี้ สถาพร เอสเตท ได้ตั้งเป้ายอด Pre-Sale อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท (รับรู้รายได้ปี 2563) พร้อมทั้งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นที่จะเป็นอันดับหนึ่งในใจลูกค้า โดยการนำธรรมชาติมาสร้างสรรค์และพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัยด้วยมุมมองการเลือกทำเลที่ตั้งโครงการเพื่อรองรับชีวิตในวันนี้และวันข้างหน้า พร้อมทั้งมั่นใจว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 11,500 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมาย” นายสุนทร กล่าวในตอนท้าย
สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ SATHAPORN ESTATE หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 990 8930 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sathaporn.com และทางเฟสบุคแฟนเพจwww.facebook.com/sathapornestate
เกี่ยวกับ “สถาพร เอสเตท” (SATHAPORN ESTATE)
บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มทรัพย์สถาพร ซึ่งมีธุรกิจในด้านธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตร, ธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเรือ, และผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง เป็นพลังงานทดแทนที่ผลิตจากผลผลิตทางการเกษตร และมี บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด, บริษัท เฉลิมนคร จำกัด และ บริษัท ทรัพย์หิรัญ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจบน “ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และ ความซื่อสัตย์ต่อธรรมชาติ” ทั้งนี้ บริษัทสถาพร เอสเตท จำกัด (SATHAPORN ESTATE) จะมุ่งเน้นแผนกลยุทธ์ในการพัฒนา คอนโดมิเนียมบนทำเล CBD และ พัฒนาโครงการแนวราบในทำเลมีที่ศักยภาพ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ส่วน บริษัท เฉลิมนคร จำกัด และ บริษัท ทรัพย์หิรัญ จำกัด จะมุ่งเน้นพัฒนาโครงการต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
ทีมงานของบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการบ้านและทาวน์โฮม ในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล มาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี โดยมุ่งเน้นการออกแบบอย่างยั่งยืน และพัฒนาโครงการที่ทันสมัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม เข้ากับรูปแบบชีวิตของคนรุ่นใหม่ ภายใต้การออกแบบในแนวคิด อนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งยืนยันด้วยรางวัล โครงการอนุรักษ์พลังงานดีเด่นขนาดใหญ่ รางวัลผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดี จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และรางวัลสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประเภทยอดเยี่ยม EIA Monitoring Awards จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่
ปี 2545 – ปัจจุบัน
ขอบคุณข้อมูลจาก www.sathaporn.com